ชื่อหลักสูตร > วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี
อักษรย่อ > วท.บ. เคมี (จำนวน 130-142 หน่วยกิต)

ขอบเขตเนื้อหาหลักสูตร
หลักสูตรมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเคมีอินทรีย์ เคมีอนินทรีย์ ชีวเคมี เคมีเชิงฟิสิกส์ เคมีวิเคราะห์ และเคมีประยุกต์ โดยผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหา และพัฒนางานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้

จุดเด่นของหลักสูตร
ผลิตบัณฑิตให้มีความรู้ทางด้านเคมีเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยแบ่งการเรียนในหลักสูตรเป็น 3 โปรแกรม ได้แก่โปรแกรมปกติ โปรแกรมสหกิจศึกษา และโปรแกรมก้าวหน้าทางวิชาการ ซึ่งนิสิตสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ โดยโปรแกรมปกติและโปรแกรมสหกิจศึกษาจะจัดให้นิสิตมีโอกาสฝึกทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งประสบการณ์จากการฝึกทำงานนี้จะช่วยส่งเสริม
ให้นิสิตสามารถพัฒนาความรู้ รวมทั้งทักษะทางด้านเคมีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนโปรแกรมก้าวหน้าทางวิชาการ นิสิตสามารถเรียนรายวิชาของบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโท) ไว้ล่วงหน้าได้ ทำให้มีเวลาในการทำวิจัย (หากเรียนต่อ ปริญญาโท) มากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
ต้องสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และต้องผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด

แนวทางในการศึกษาต่อ
ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ทำการเปิดสอนสาขาวิชาเคมีและสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

แนวทางในการประกอบอาชีพ
สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลายทั้งภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ หรือประกอบอาชีพส่วนตัว เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักวิชาการด้านเคมีในหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน พนักงานตรวจสอบคุณภาพ พนักงานวิจัยและพัฒนาในโรงงานอุตสาหกรรม ครูสอนวิชาเคมีในสถานศึกษา ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พนักงานขายสารเคมี อุปกรณ์และเครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เจ้าของกิจการ ที่ปรึกษาด้านการวิจัยหรือวิชาการทางด้านเคมี หรืองานอื่น ๆ ที่อาศัยความรู้ทางเคมี ตัวอย่างสถานที่ทำงานเช่น บริษัทเคมีภัณฑ์ โรงงานยาสูบ โรงงานผลิตอาหาร บริษัทนํ้าอัดลม โรงงานนํ้าตาล บริษัทนํ้ามัน โรงงานผลิตเส้นใย โรงงานผลิตผงซักฟอก โรงงานปูนซีเมนต์ โรงงานสี โรงงานกระจก โรงงานผลิตเยื่อกระดาษ โรงงานผลิตพลาสติก กองพิสูจน์หลักฐาน กรมตำรวจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การประปานครหลวง กรมทรัพยากรธรณี กรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมพัฒนาที่ดิน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นต้น